บั้งไฟพญานาค 2555 ออกพรรษา 30 ตุลา มหัศจรรย์ลุ่มน้ำโขง!

บั้งไฟพญานาค 4 ต.ค. 2552, 23 ต.ค. 2553 และวางแผนเที่ยวชม 30 ต.ค. 2555 มหัศจรรย์แม่น้ำโขง สถานที่ชมบั้งไฟพญานาค ข้อมูลวิดีโอปีต่างๆ และสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ



บั้งไฟพญานาค Amazing World !!! มหัศจรรย์แม่น้ำโขง...



...ทุกวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น ถึงประมาณ 3 ทุ่ม
จะมีลูกไฟประหลาด (naga fireball,bungfai phayanak) มีลักษณะ แสงสว่างเรือง สีชมพู อมแดง
ไม่มีเสียง ไม่มีควัน ไม่มีประกายไฟ ขึ้นตรงบ้าง เฉียงบ้าง แต่ไม่โค้ง
และไม่ตกลงมา จะดับหายไปในอากาศ
..จะขึ้นสูงมาก ประมาณ 50-200 เมตร สูงจากการจุดพลุทั่วๆไป เป็นที่มหัศจรรย์มากมาย
...บั้งไฟพญานาค 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียว
ปีใด มีแปดสองหน (ปี อธิกมาส ...ปีอธิกมาส เป็นปีตามปฏิทิน จันทรคติ)
จะเลื่อนไป แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของทางฝั่งลาว
...แต่ชาวหนองคายบางคน บอกว่าปีไหนมีแปดสองหน บั้งไฟพญานาค จะขึ้นทั้งสองวัน
คือวันออกพรรษาของไทย และวันออกพรรษาของลาว

...บั้งไฟพญานาคมีมาแต่โบราณกาล เท่าที่มีหลักฐานก็ร่วม 200 กว่าปี ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่ อ.โพนพิสัย
ถึง อ. บึงกาฬ กว่า 300 กม.(มักพบที่ อ.โพนพิสัย กิ่ง อ.รัตนวาปี อ.ปากคาด อ.บึงกาฬ)
ใต้แม่น้ำโขง ช่วง อ.โพนพิสัย ถึง แก่งอาฮง อ.บึงกาฬ ชาวหนองคายเชื่อว่า เป็นเมืองของพญานาค






(พระอาทิตย์ยามเย็น ที่ฝั่งลาว)

วันออกพรรษา ของทุกปี ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11

ซึ่งสามารถตรวจสอบโดย เข้าที่เว็บ http://astrology.thaiorc.com/calendar.php

แล้วดูที่เมนู "ค้นหาข้อมูลจากปฏิทินจันทรคติ"




ซึ่งในปี 2552 นี้ เมื่อเลือกค้นหา ขึ้น15 ค่ำ เดือน 11 ปี 2552 ไปแล้ว

จะตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 4 ตุลาคม 2552

หมายความว่า วันออกพรรษา 2552 นี้ จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552

...และหลักการในการตรวจสอบ วันดูบั้งไฟพญานาค โดยปีที่มีเดือนแปดสองหน ตามจันทรคตินั้น
บั้งไฟจะไม่ขึ้นในวันออกพรรษาไทย หรือมีขึ้นน้อย แต่จะไปขึ้นในวันถัดไปคือ แรม 1 ค่ำ เดือน 11
ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของลาว

สำหรับแปดสองหนนั้น เรียกอีกอย่างว่า ปีอธิกมาส ตามปฏิทินจันทรคติ
...ในผลของการค้นหาวันในเว็บ http://astrology.thaiorc.com/calendar.php

...พบว่า วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ปี 2552 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 และเป็นปี อธิกวาร
(ไม่ได้เป็นปี อธิกมาส)

...เพราะฉะนั้น บั้งไฟพญานาค ปี 2552 จะขึ้นมากในวันออกพรรษา ตามปกติ

------------------------------

มาดูความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับปฏิทิน

ปฏิทินจะมี 2 แบบคือ แบบสุริยคติ กับ แบบ จันทรคติ ซึ่งแบบสากล คือแบบ สุริยคติ

ระบบปฏิทินแบบสุริยคตินั้น จะใช้การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ในการกำหนด 1 ปี
ใช้เวลาประมาณ 365. 25 วัน จึงแบ่งปีออกเป็น ปี อธิกสุรทินมี 366 วัน
และ ปีปกติมี 365 วัน โดยทุก 4 ปีจะมีปีอธิกสุรทิน 1 ครั้งโดยประมาณ

ส่วนปฏิทินจันทรคติของไทยนั้น จะใช้การโคจรของดวงจันทร์รอบโลกเป็นเกณฑ์
กำหนดให้ 1 ปี มี 12 เดือน ในเดือนที่มีเลขคี่คือเดือน 1, 3, 5, 7, 9, 11 ให้มี 29 วัน(เรียกว่าเดือนขาด)
และในเดือนคู่คือ 2, 4, 6, 8, 10, 12 ให้มี 30 วัน(เรียกว่าเดือนเต็ม) ใน 1 เดือน จะแบ่งเป็นข้างขึ้น 15 วัน และข้างแรม 14-15 วัน (ในเดือนขาดจะมีแค่แรม 14 ค่ำ ส่วนในดือนเต็มจะมีแรม 15 ค่ำ) รวม 1 ปีปกติจะมี 354 วัน ซึ่งทำให้ต่างจากปีทางสุริยคติถึง 11 วัน ดังนั้นจะต้องมีการปรับปฎิทินเป็นระยะ เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำกัน โดยจะแบ่งประเภทปีออกเป็น 3 แบบ

1. ปกติมาส มี 354 วัน
2. อธิกมาส มี 384 วัน โดยปีนั้นจะมีเดือน 8 ซ้ำ 2 หน
3. อธิกวาร มี 355 วัน โดยในเดือน 7 จะมีแรม 15 ค่ำ

ทุกๆ 19 ปีจะมีอธิกมาส ประมาณ 7 ปี และอธิกวาร ประมาณ 3 ปี(ไม่แน่นอน)

ข้อความ ความรู้ จาก http://www.payakorn.com/moondate.php

...ผมผู้ทำ blog แห่งนี้ (webmaster http://www.makemoney-school.com)
เคยไปเที่ยวลาว และสอบถาม Taxi ลาว ว่า บั้งไฟพญานาค เป็นเรื่องจริงหรือไม่
...เค้าบอกว่าเรื่องจริง บั้งไฟพญานาค จะขึ้นเป็นเวลา และจะไม่ขึ้นอีก
...จากการศึกษาพบว่าบั้งไฟพญานาค แต่ก่อนเรียกบั้งไฟผี
แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อเป็นบั้งไฟพญานาค เพื่อให้เกี่ยวข้องกับเมืองหนองคาย

บั้งไฟพญานาค กับพญานาคอาจไม่เกี่ยวข้องกัน แต่การเกิดของบั้งไฟพญานาคก็ยังเป็นที่สงสัยของที่มาในการเกิด

...การไปเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค มีครั้งหนึ่งที่ผมไปดู บั้งไฟขึ้นประมาณ 1 ทุ่ม ถึง 2 ทุ่ม
จากนั้น ก็ไม่ขึ้นอีกเลย หรือบางที่ ก็ขึ้นตั้งแต่ 6 โมงเย็น

...เพราะฉะนั้น หากท่านต้องการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยไม่พลาด ควรไปถึงสถานที่รอชม ก่อน 6 โมงเย็น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมนึกอยากไปชม ก็ขับรถไปเลย กว่าจะไปถึงก็เกือบ 6 ทุ่ม ถามแม่ค้าแถวนั้น เค้าบอกว่าขึ้นไปแล้ว
ไม่น่าจะมีขึ้นมาอีกแล้ว ...ครั้งนั้นจึงไม่ได้เห็นบั้งไฟพญานาค แต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว รุ่งเช้า จึงตัดสินใจ ข้ามฝั่งไปเที่ยวประเทศลาว

...ระวัง ปัญหา รถติดมากๆ จะพลาดชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค 1 ปี มีเพียง ครั้งเดียว
ควรมาถึง อ.เมือง หนองคาย ในช่วงเช้าก่อนเที่ยงวัน เพราะถ้ามาถึงช่วงบ่าย หรือช่วงเย็น รถติดมาก จนอาจพลาดชม

บั้งไฟพญานาค เมื่อ 14 ตุลาคม 2551

...มีผู้ถ่ายคลิปไว้จำนวนมาก ส่วนตัวแล้ว ผมก็ไปดูครับ พยายามถ่ายเป็นรูปแต่ถ่ายยากมาก
ก็เลยขอนำเสนอ ผู้ที่ถ่ายคลิปวิดีโอไว้มาให้ ท่านได้ชมกันนะครับ

...แต่ !!! อย่างไรก็แล้วแต่ การได้เห็นด้วยตาเปล่า เป็นอะไรที่ ประทับใจ
และอลังการ มากมายกว่า แตกต่างมาก จากในการรับชมทางวิดีโอ หรือสื่อโทรทัศน์ต่างๆ
ประมาณว่า ครั้งหนึ่งใน ชีวิต ไม่ควรพลาดได้ดูกับตาครับ


14 ตุลาคม 2551 อ.โพนพิสัย


คลิปนี้ ไม่ได้ระบุว่าถ่ายได้ที่จุดไหน แต่ถ่ายปี 2551 ที่หนองคาย



คลิปนี้ ถ่าย คืนวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ณ วัดไท อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย



นี่ก็ที่โพนพิสัยครับ มีแปลเป็น English ด้วย เผื่อใครอยากให้เพื่อนต่างชาติดู



3 คลิปล่างนี้ บั้งไฟพญานาค ถ่ายไว้เมื่อปี 2551 ที่อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย





แผนที่ จ.หนองคาย


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

...จากแผนที่ จ.หนองคาย การเดินทางมาจังหวัดหนองคาย ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ
มาเส้นทาง ถ.มิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ยาวมาเลย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผ่าน นครราชสีมา ขอนแก่น อุดร แล้วก็ หนองคาย

...สำหรับบริเวณที่นิยมเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค จะอยู่ในช่วง อ.โพนพิสัย ไปจนถึง อ.บึงกาฬ
(สำหรับ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ และ อ.เมือง ก็มีจุดดูบั้งไฟพญานาค แต่ไม่เป็นที่นิยม)

...ควรไปถึง อ.เมืองหนองคาย ตั้งแต่ช่วงเช้านะครับ จะได้แวะเที่ยวตามที่ต่างๆได้ และ เพื่อหลีกเลี่ยง
การเจอปัญหารถติด เพราะถ้าช่วงบ่ายแล้ว รถจะติดมากๆๆๆ จนอาจทำให้ท่าน พลาดชมปรากฏการณ์
บั้งไฟพญานาคที่ 1 ปี มีเพียงครั้งเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ ใน อ.เมืองหนองคาย !!!

เมื่อไปถึง อ.เมืองหนองคายแล้ว แวะเที่ยวท่าเสด็จ ได้เลย เป็นตลาดอินโดจีนขายสินค้าต่างๆ

จากท่าเสด็จ มองเห็นริมฝั่งโขง นิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
และบริเวณริมฝั่งโขง ไม่ไกลกันนัก ที่วัดหายโศก จะมีศาลเจ้าแม่สองนาง ซึ่งศาลเจ้าแม่สองนาง
จะพบตามอำเภอต่างๆริมฝั่งโขง เช่น อ.เมือง อ.โพนพิสัย อ.บึงกาฬ เป็นศาลบูชาเจ้าแม่แห่งสายน้ำ
คุ้มครองชาวฝั่งโขงที่ทำอาชีพในแม่น้ำโขง ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการบูชาพญานาค 2 ตน
...สำหรับศาลเจ้าแม่สองนาง วัดหายโศก ริมฝั่งน้ำโขง ใน อ.เมืองหนองคาย ตามตำนานเล่าว่า
เป็นธิดา กษัตริย์ล้านช้าง ได้อพยพหนีภัยสงคราม เมื่อมาถึงหน้าวัดหายโศก ได้เกิดคลื่นน้ำวนขนาดใหญ่
ทำให้เรือจมน้ำ ชาวบ้านจึงสร้างศาลแห่งนี้ ให้เป็นที่สถิตย์ดวงวิญญาณ เพื่อปกป้องคุ้มครอง ผู้คนที่เดินทาง
ทางแม่น้ำโขง
...บริเวณศาลเจ้าแม่สองนาง วัดหายโศก มีท่าน้ำ ในวันลอยกระทง มีบริการ นั่งเรือไปลอยกระทงกลางลำน้ำโขงอีกด้วย
ค่าบริการนั่งเรือ คนละ 10 บาท
(ในเทศกาลแข่งเรือยาว ไทย-ลาว ก็เพื่อเป็นการบวงสรวง เจ้าแม่สองนาง)
(สำหรับการลอยกระทงกลางแม่น้ำโขง มีอีกที่ที่น่าสนใจคือ ลอยกระทงสักการะพระธาตุกลางน้ำ รายละเอียด
สามารถดูได้ที่ http://loykrathong-unseen.blogspot.com )

...ในตัวเมืองหนองคาย ยังมี หลวงพ่อพระใส พระสุก ที่ควรไปสักการะกราบไหว้ยิ่งนัก
หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โบราณ
มีประวัติเล่าสืบต่อกันมา ในปี พ.ศ.2105 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช อาณาจักรล้านช้าง(กษัตริย์เจ้าชีวิตชาวลาว)
มีพระธิดา 3 พระองค์ คือ พระราชธิดาเสริม พระราชธิดาสุก พระราชธิดาใส ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขอพระราชบิดา
สร้างพระพุทธรูปประจำพระองค์
...โดยมีพระ ชาวบ้านและช่างได้มาร่วมสร้างมากมาย การหลอมทองยากลำบาก ใช้เวลาหลอมถึง 7 วัน 7 คืน ทองไม่ละลาย
เข้าสู่วันที่ 8 ขณะที่หลวงตากับเณร พยายามหลอมทอง ก็มีชีปะขาวคนหนึ่ง อาสามาช่วย
...ขณะนั้นหลวงตาและเณรได้ขึ้นไปฉันท์เพล ชาวบ้านได้มองเห็นชีปะขาว มากมาย ช่วยกันเททองหล่อพระพุทธรูป ขณะที่หลวงตา
มองเห็นชีปะขาวเพียงคนเดียว
...และเมื่อหลวงตาฉันท์เสร็จ ก็พบว่า ทองทั้งหมด ได้เทลงในเป้าหล่อทั้ง 3 แล้ว และชีปะขาว ก็ได้หายไป
ชาวบ้านเชื่อว่า ชีปะขาวคือเหล่าพญานาค มาช่วยหล่อพระพุทธรูป

...เมื่อพุทธศักราช 2321 ในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้เกิดสงครามระหว่างกรุงธนบุรีกับกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ยังทรงดำรงพระยศเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงเป็นจอมทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ เมืองเวียงจันทน์เกิดยุคเข็ญขึ้น พระเจ้าธรรมเทวงษ์จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ มาไว้ที่วัดโพนชัยเมืองเวียงจันทน์อีก
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองเวียงจันทน์เกิดกบฏขึ้น พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพ เป็นจอมทัพไปปราบกบฏ เมื่อเสร็จศึกแล้วจึงได้อัญเชิญพระเสริม พระสุก พระใส มาฝั่งไทย

...ขณะอัญเชิญ พระเสริม พระสุก พระใส ข้ามโขงมายังฝั่งไทย ล่องมาตามลำน้ำงึม
(แม่น้ำงึมใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ไหลลงสู่แม่น้ำโขง) เมื่อมาถึงปากน้ำงึม ตรงข้าม บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้แพเสียการทรงตัว และแท่นพระสุก ได้จมน้ำ
...และเมื่อขบวนอัญเชิญ มาอีกไม่ไกล แพอัญเชิญองค์พระสุกแตก และพระสุกจมลงยังแม่น้ำโขง ...ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า
พญานาคมารับองค์พระสุกไปบูชา ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าเวินพระสุก เป็นเวินน้ำวนขนาดใหญ่
และบริเวณนี้ก็มีบั้งไฟพญานาคปรากฏให้เห็น
(เรื่องราวของพระสุก ในปัจจุบัน ที่มีการยืนยัน อ่านต่อได้ที่นี่ http://www.dmc.tv/pages/scoop/bangfai_payanaka4.html
หรือ http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=1354
เวินพระสุก กับปริศนาใต้ลำน้ำโขง มีการกล่าวถึงพระราชธิดา 2 พระองค์ของเจ้าไชยเชษฐาธิราช และมีเหตุการณ์ไม่นานมานี้ในการ
อัญเชิญพระสุก ขึ้นจากเวินพระสุก บริเวณ บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย เชิญขึ้นมาได้ครึ่งองค์พระ และจมกลับลงไป)

...มาเล่ากันต่อครับ ในปี 2536 ชาวหนองคาย ได้ประกอบพิธีบวงสรวง อัญเชิญพระพุทธคุณ หลวงพ่อพระสุก และ
เททองหล่อหลวงพ่อพระสุกจำลอง ประดิษฐานไว้วัดหลวง อ.โพนพิสัย ภายในเจดีย์ที่ประดิษฐานพระสุกจำลอง
มีน้ำไหลออกมาจากปล่องเพดานตลอดปี เมื่อให้คนทรงมาดู พบว่าเป็นมีพญานาค นำหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากใต้บาดาล
มาบูชาองค์พระสุก


...สำหรับ พระเสริมและพระใส ได้อัญเชิญมาไว้ยังเมืองหนองคาย ต่อมา สมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดให้อัญเชิญพระเสริม และพระใส
มาไว้ที่กรุงเทพ แต่ขบวนเกวียนที่อัญเชิญพระใส จากวัดหอก่อง เมื่อมาถึงวัดโพธิ์ชัย เกวียนไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ และได้หักในที่สุด แม้จะนำเกวียนมาเปลี่ยนใหม่ ก็ไม่สามารถเดินทางต่อได้ ..จึงประดิษฐานพระใส ไว้ยังวัดโพธิ์ชัย
...สำหรับพระเสริม ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ที่ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพ จนถึงปัจจุบัน

...ชาวเมืองหนองคาย ได้เคารพศรัทธา หลวงพ่อพระใสอย่างมาก และในเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีการอัญเชิญหลวงพ่อพระใส
แห่รอบเมือง เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชา และสรงน้ำขอพร และว่ากันว่า จะมีฝนตกทุกปีในขณะที่แห่สักการะบูชา


สรุปการท่องเที่ยวที่น่าสนใจในตัวเมือง กรณีไปถึงช่วงเช้าของวันดูบั้งไฟพญานาค


1. เที่ยวตลาดอินโดจีน ที่ท่าเสด็จ
2. ไหว้ศาลเจ้าแม่สองนาง ริมน้ำโขง วัดหายโศก

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

3. ไหว้พระธาตุกลางน้ำ จ.หนองคาย อ.เมืองหนองคาย
บริเวณริมฝั่งโขง ทิศตรงข้ามกับศาลเจ้าแม่สองนาง อยู่บริเวณ ท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
-----กำหนดการน่าสนใจ-----
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 08.00 – 09.00 น. - พิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง ณ บริเวณท่าน้ำวัดหายโศก
เวลา 10.00 – 11.00 น. - พิธีบวงสรวงพระธาตุกลางน้ำ ณ บริเวณท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
------------------------------

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

จากแผนที่ ลองคลิกที่ เมนูเขียนว่า แผนที่ ดูนะครับ จะพบวัดสิริมหากัจจายน์
(พระธาตุหนองคาย หรือ พระธาตุกลางน้ำ เดิมชื่อพระธาตุหล้าหนอง เป็นพระธาตุที่หักพังอยู่กลางลำน้ำโขง ห่างจากชายฝั่งปัจจุบันประมาณ 180 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุฝ่าพระบาทเก้าพระองค์ตามตำนานอุรังคธาตุ (พระพนม) จากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดีภาค 7 พบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ 17.2 เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูงประมาณ 28.5 เมตร หักออกเป็น 3 ท่อน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 20–22 เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายพระธาตุบังพวนมากที่สุด หนังสือประชุมพงศาวดารภาค 70 บันทึกไว้ว่า “พระธาตุเมืองหนองคายได้เพ (พัง) เมื่อวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีพุทธศักราช 2390” และตลิ่งได้ถูกน้ำเซาะจนมองเห็นพระธาตุอยู่เกือบกึ่งกลางลำน้ำโขงในปัจจุบัน

พระธาตุหล้าหนองยังคงเป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคาย ชาวบ้านได้จัดงานประเพณีเกี่ยวกับพระธาตุทุกปี นอกจากนี้ทางจังหวัดหนองคายได้ก่อสร้างพระธาตุหล้าหนององค์จำลองสูง 15 เมตรขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยบรรจุชิ้นส่วนพระธาตุองค์จริงอยู่ภายใน
ข้อมูลจาก http://www.tat.or.th/northeast05/travelplacedet.asp?prov_id=43&id=2936&dept_id=18 )


4. ไหว้หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย
อยู่ในตัวเมืองหนองคายครับ หาไม่ยาก



(ที่ต้องนำเสนอประวัติยาว เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวที่มา จะได้ไม่พลาดการสักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ครับ)


ออกจาก อ.เมืองหนองคาย เลี้ยวซ้าย มาทาง อ.โพนพิสัย เพียง 3 กม. จะพบศาลาแก้วกู่

5.ศาลาแก้วกู่ อุทยานเทวาลัย ขนาดใหญ่ อลังการงานสร้าง และความศรัทธา
ห่าง 3 ก.ม. จากตัวเมืองหนองคาย เส้นทางไป อ.โพนพิสัย ...ผมได้ทำข้อมูลไว้อย่างละเอียด เข้าดูได้ที่
http://sala-saeoku.blogspot.com

หลังจากเที่ยวชมศาลาแก้วกู่ ก็มุ่งหน้าไป อ.โพนพิสัย หรือ กิ่ง อ.รัตนวาปี หรือตามแต่จะวางแผนไปดูกันนะครับ

6. ก่อนถึง อ.โพนพิสัย จะถึงวัดหลวง อย่าลืมไหว้สักการะ พระสุกจำลอง ที่วัดหลวงเจดิยาราม ชมความมหัศจรรย์ของน้ำหยด
ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ว่ากันว่าเป็นน้ำที่พญานาค นำมาสักการะหลวงพ่อพระสุก
...รายละเอียดการท่องเที่ยว ซึ่งนักปั่นจักรยานได้ทำไว้ ดูได้ตั้งแต่ความเห็นที่ 20 นะครับ http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=197552&st=1

----------
ทั้งนี้ จังหวัดหนองคายได้จัดกำหนดการ วันออกพรรษา ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคม 52 หากท่าน มีเวลาในการท่องเที่ยวมาก
ถ้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 3 ก็จะดีเลยทีเดียว เพราะจะได้ ชมการแสดงตำนานบั้งไฟพญานาค

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึงท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวดกระทงยักษ์ และการลอยเรือไฟบูชาพญานาค ณ บริเวณ
ริมแม่น้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง วัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 19.30 น. - การแสดง แสง – เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ณ บริเวณที่ราชพัสดุ
ข้างวัดลำดวน วันสุดท้าย


วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 08.00 – 09.00 น. - พิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง ณ บริเวณท่าน้ำวัดหายโศก
เวลา 10.00 – 11.00 น. - พิธีบวงสรวงพระธาตุกลางน้ำ ณ บริเวณท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 08.00 – 16.30 น. - การประกวดปราสาทผึ้งแบบดั้งเดิมจากคุ้มวัด ,ชุมชนต่าง ๆ ณ บริเวณ
วัดหายโศก เสร็จแล้วถวายเจ้าแม่สองนาง และเคลื่อนขบวนปราสาทผึ้ง
เพื่อถวายพระธาตุกลางน้ำ ณ บริเวณท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 09.00 – 18.00 น. - การแข่งขันเรือยาว ประเภท ค. งานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึงท่าน้ำวัดสิริมาหากัจจายน์
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำ
วัดลำดวน ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 18.00 น. - การลอยกระทงวันเพ็ญ เดือน 11 ณ บริเวณท่าน้ำเขตเทศบาล
เวลา 19.00 น. - การประกวด / การแสดงบนเวที ณ บริเวณที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน
- การประกวดกระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึงวัดสิริมหากัจจายน์
- การลอยกระทงสาย เริ่มต้นจากท่าน้ำวัดมีชัย

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2552 (แรม 1 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 06.00 น.. - การตักบาตรเทโวโรหนะ แบ่งเป็น 4 สาย คือ
สายที่ 1 จากวัดสิริมหากัจจายน์ ถึง วัดอุดมมหาวัน
สายที่ 2 จากวัดโพธิ์ศรี ถึง วัดยอดแก้ว
สายที่ 3 จากวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ ถึง วัดศรีคุณเมือง
สายที่ 4 จากวัดศรีเมือง ถึง วัดชัยพร
เวลา 09.00 – 18.00 น. - การแข่งขันเรือยาวประเภท ข. งานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึง ท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวด / การแสดงบนเวที ณ บริเวณที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน
- การแสดงโชว์กระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง
วัดสิริมาหากัจจายน์

สำหรับกำหนดการทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 1-7 ต.ค. 52
ดูได้ที่ http://bungfai-phayanak.blogspot.com/2009/09/52.html

สถิติแรกจากเว็บ สำนักงานทางหลวง จ.หนองคาย

เป็นสถิติปี 2546 - 2548 http://www.rrd-nk.net/Payanak3.htm

1.อ.สังคม ...2546 จำนวน 7 ลูก /// 2547 จำนวน ไม่มีข้อมูล /// 2548 จำนวน 16 ลูก
2.อ.ศรีเชียงใหม่ ...2546 จำนวน - ลูก /// 2547 จำนวน - ลูก /// 2548 จำนวน 9 ลูก
3.อ.เมือง ...2546 จำนวน - ลูก /// 2547 จำนวน - ลูก /// 2548 จำนวน 11 ลูก
4.โพนพิสัย ...2546 จำนวน 301 ลูก /// 2547 จำนวน 16 ลูก /// 2548 จำนวน 107 ลูก
5.กิ่งอ.รัตนวาปี ...2546 จำนวน 253 ลูก /// 2547 จำนวน 103 ลูก /// 2548 จำนวน 94 ลูก
6.อ.ปากคาด ...2546 จำนวน 58 ลูก /// 2547 จำนวน - ลูก /// 2548 จำนวน 32 ลูก
7.อ.บึงกาฬ ...2546 จำนวน 107 ลูก /// 2547 จำนวน 9 ลูก /// 2548 จำนวน 14 ลูก
8.อ.บึงโขงหลง ...2546 จำนวน 24 ลูก /// 2547 จำนวน ไม่มีข้อมูล /// 2548 จำนวน 2 ลูก

สถิติ ปี 2549 จากเว็บ http://hilight.kapook.com/view/3056

บั้งไฟพญานาคเกิด 176 ลูก

บ้านตาลชุม ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี 12 ลูก,
บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี 14 ลูก,
บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี กิ่ง อ.รัตนวาปี 14 ลูก,
บ้านโพนแพง ต.โพนแพง กิ่ง อ.รัตนวาปี 3 ลูก,
บ้านหนองกุ้ง ต.กุดบง อ.โพนพิสัย 18 ลูก,
บ้านหนองแก้ว ต.กุดบง อ.โพนพิสัย 17 ลูก,
บ้านภูเสด็จ ภูกระแต ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย 4 ลูก,
วัดไทย ต.จุมพล อ.โพนพิสัย 4 ลูก,
บ้านชุมช้าง อ.โพนพิสัย 12 ลูก,
ที่ทำการอบต.จุมพล อ.โพนพิสัย 8 ลูก,
วัดหลวง อ.โพนพิสัย 12 ลูก,
ริมตลิ่งเขตเทศบาลตำบลปากคาด อ.ปากคาด 4 ลูก,
วัดอาฮง ต.หอคำ อ.บึงกาฬ 14 ลูก,
และบ้านท่าไคสี อ.บึงโขงหลง 10 ลูก

ปี 50 ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=335036
สำหรับบริเวณบ้านท่าม่วงตาลชุม เกิดบั้งไฟพญานาคเป็นประจำทุกปี ล่าสุดในปี 2550 เกิดขึ้น 54 ลูก และหลายหมู่บ้านในอ.รัตนวาปี เกิดขึ้น 96 ลูก ขณะที่จำนวนบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของจ.หนองคายรวม 253 ลูก

ปี 51 ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=335036
เวลาประมาณ 22.00 น.มีการนับจำนวนบั้งไฟพญานาคในพื้นที่จ.หนองคายได้จำนวนอย่างไม่เป็นทางการ 227 ลูก คือที่ อ.รัตนวาปี 72 ลูก อ.โพนพิสัย 62 ลูก อ.เมืองหนองคาย ที่วัดอุทุมพรบ้านเดื่อ 48 ลูก อ.ศรีเชียงใหม่ 10 ลูก อ.สังคม 28 ลูก และที่อ.บึงกาฬ 7 ลูก

ปี 50 ข้อมูลจาก http://news.hunsa.com/detail.php?id=276
จากการรวบรวมสถิติการเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย ซึ่งได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่จากอำเภอต่างๆ รายงานเข้ามา สถิติอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า ที่ อ.รัตนวาปี เกิดบั้งไฟพญานาคมากที่สุด บริเวณที่เกิดบั้งไฟ ประกอบด้วย บ้านท่าม่วง 24 ลูก, บ้านโพนแพง 1 ลูก, บ้านหนองแก้ว 12 ลูก, บ้านน้ำเป 6 ลูก, อ.โพนพิสัย บริเวณบ้านใหม่กุดบง 3 ลูก, บ้านปากสวย 9 ลูก, บ้านเดื่อจุมพล 4 ลูก, อ.สังคม ที่บ้านผาตั้ง 5 ลูก และ อ.ท่าบ่อ ที่บ้านโพนสา 3 ลูก รวมทั้งสิ้น 67 ลูก ส่วนที่วัดไทย อ.โพนพิสัย ซึ่งเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวเฝ้ารอชมจำนวนมาก แต่กลับไม่เกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคให้เห็นเลยแม้แต่ลูกเดียว

....ตอนที่ไปดูบั้งไฟพญานาคปี 2550 ก็เคยได้ข้อมูล สถิติ ตำรวจท่องเที่ยว จ.หนองคาย เอามาแจกให้
ขณะกำลังเที่ยวชมศาลาแก้วกู่ แต่หาเอกสารท่องเที่ยวฉบับนั้นไม่เจอ
เอาเป็นว่า ถ้าจะดูผมว่า โพนพิสัย กับ รัตนวาปี น่าสนใจครับ


.................. Update ข้อมูล ...................
ปี 2552 วันที่ 4 ต.ค. ผมเดินทางไป รอชมที่ บ้าน น้ำเป กิ่ง อ.รัตนวาปี ไม่มีขึ้นให้เห็นครับ

สถิติ บั้งไฟพญานาค 2552 ข่าวจาก เนชั่น


อ.โพนพิสัย มีที่ วัดไทย 3 ลูก หนองแก้ว 6 ลูก ปากสวย 4 ลูก ตาลชุม 8 ลูก อบต.จุมพล 2 ลูก
ที่ อ.รัตนวาปี มี บ้านท่าม่วง 9 ลูก เปงจาน 7 ลูก
อ.เมือง ที่บ้านพวก 5 ลูก
อ.ท่าบ่อ ที่ปากห้วยโมง 4 ลูก
อ.สังคม ที่วัดหินหมากเป้ง 3 ลูก
และ อ.บึงโขงหลง ที่บ้านหมากผาง 2 ลูก

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=409090

อ.สังคม (ห่างจาก อ.เมือง 95 กม.)
- บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสังคม
- อ่างปลาบึกบ้านผาตั้ง อำเภอสังคม

อ.ศรีเชียงใหม่ (ห่างจาก อ.เมือง 57 กม.)
- วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่

อ.เมืองหนองคาย
- บ้านหินโงม ตำบลหินโงม อ.เมือง หนองคาย
- หน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลบ้านเดื่อ ต.บ้านเดื่อ อ. เมือง

อ.โพนพิสัย (ห่างจาก อ.เมือง 45 กม.)
- ปากห้วยหลวง ต.ห้วยหลวง อำเภอโพนพิสัย
- ต.จุมพล ฝั่งวัดไทย วัดจุมพล วัดจอมนาง อ.โพนพิสัย
- หนองสรวง อ.โพนพิสัย
- เวินพระสุก ท่าทรายรวมโชค ต.กุดบง บ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย

กิ่ง อ.รัตนวาปี (ห่างจาก อ.เมือง 71 กม.)
- บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี
- ปากห้วยเป บ้านน้ำเป กิ่ง อ.รัตนวาปี
- วัดเปงจานเหนือ กิ่ง อ.รัตนวาปี

อ.ปากคาด (ห่างจาก อ.เมือง 90 กม.)
- บ้านปากคาด ปาดคาดมวลชน ห้วยคาด อ.ปากคาด

อ.บึงกาฬ (ห่างจาก อ.เมือง 136 กม.)
- วัดอาฮง ต.หอคำ อ.บึงกาฬ (เป็นจุดที่ชาวหนองคายเชื่อกันว่าเป็นสะดือแม่น้ำโขง
เป็นเมืองหลวงของเมืองบาดาล)

...เมื่อ ปี 2550 ผมได้รอชมบั้งไฟพญานาค ที่บริเวณหน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย แต่ผิดหวัง
ชาวบ้านว่า ปี 2550 เป็นปี แปดสองหน บั้งไฟจะเกิดในวันถัดมา
...แต่ในปีนั้นวันนั้นเอง ที่ กิ่ง อ.รัตนวาปี ก็ได้รับรายงานว่าเกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นหลายลูก

...หลังจากผิดหวังในปี 2550 ในปี 2551(14 ต.ค.51) ก็ไปดูอีก
โดยคราวนี้ ไปดูที่บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี

ออกเดินทางไปถึงหนองคายตั้งแต่เช้า แวะเที่ยวตลาดอินโดจีน ท่าเสด็จ
...จากนั้น ไหว้หลวงพ่อพระใส และทำบุญ ที่วัดโพธิ์ชัย

...ออกจากวัดโพธิ์ชัย มุ่งหน้าไปยัง อ.โพนพิสัย ไม่ได้แวะเที่ยว ศาลาแก้วกู่ เพราะปี 2550
ได้แวะเที่ยว และเก็บภาพไว้เยอะแล้ว

...แวะทานก๋วยเตี๊ยวที่ อ.โพนพิสัย และตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปยังบ้านท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี

...ที่บ้านท่าม่วง ในปี 2551 นี้ ตามริมทาง ได้พบธงรับเสด็จ 2 พระองค์



จากการสอบถามจึงได้ทราบว่า ปีนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จทอดพระเนตร บั้งไฟพญานาค ที่บ้านท่าม่วง แห่งนี้

มีการจัดที่ประทับ และตำรวจทหารมาคอยรักษาความปลอดภัย และดูแลความสงบ

ผมเดินทางไปถึงริมโขง บ้านท่าม่วง ตั้งแต่บ่าย คนก็เริ่มทยอยมากันแยะแล้ว


ภาพนี้ แฟนผมไม่รู้ไปซื้อไรมา ถามดู บอกว่าแปลกดี ลองกินดู ...หมากอะไรก็ไม่รู้ครับ


...พากันปูเสื่อนั่งจองที่ครับ กลัวคนเยอะไม่มีที่นั่งดู ร้อนก็ร้อนครับ แต่พยายามจองที่ไว้ก่อน
แต่พอถึงเวลาจริงๆ เค้าไปนั่งดูกันอยู่ตลิ่งริมน้ำโขงครับ บริเวณทางเดินข้างบนเค้าไม่นั่งกัน
...เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าไปถึงเร็ว ก็หาที่ร่มๆ จะไปพักหลบแดดที่ไหนก่อนก็หาได้ตามสบายเลย
พอเวลา ใกล้ค่ำแล้วค่อยไปที่ตลิ่งริมน้ำโขง

ผู้คนมากมายมารอชม



เวลาแห่งการรอคอยใกล้เข้ามา

พระอาทิตย์ยามเย็น ที่ฝั่งลาว

....เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ก็มีบั้งไฟพญานาค ขึ้นมาให้ชม ประทับใจมากๆ ...เมื่อเด็กก็เคยดูครับ แต่เป็นความทรงจำลางๆ
การได้กลับมาเห็นใหม่ เป็นความประทับใจสุดซึ้ง ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร เอาเป็นว่าประทับใจสุดๆ
อันที่จริง ตามมา 2 ปีแล้วครับ ปีนี้ปีที่ 3 หมายความว่า ตั้งแต่ผมอายุ 30ต้นๆนี่ ผมก็อยากเห็นบั้งไฟพญานาค เพราะ
ความทรงจำตอนเด็กมันไม่แจ่มเท่าไหร่
...ใน ปี 2549 นี่ นึกงัยไม่รู้ อยากดูก็ขับรถมาเลย กว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงคืนครับ ไม่มีอะไรให้ดูแล้วครับ เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว
เช้ามาจึงข้ามไปท่องเที่ยวเวียงจันทน์ที่ประเทศลาว
...ในปี 2550 เป็นปีแปดสองหน ปีนี้ ก็มารอชมบั้งไฟพญานาคที่ หน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย ผิดหวังครับ ไม่เห็นเลย
ชาวบ้านบอก อาจจะขึ้นวันถัดไป เพราะปีนี้แปดสองหน แต่ผมก็ไม่ได้รอดูครับ ไม่เห็นก็ขับรถกลับบ้าน ในปี 2550 นี้
ถามคนรู้จัก ที่ไปดูในปีนี้เหมือนกัน เค้าบอกว่า ไปดูที่ห้วยน้ำเป กิ่ง อ.รัตนวาปี ขึ้นเยอะมาก
...ในปี 2551 เอาล่ะ ตัดสินใจ ต้องเห็นให้ได้ ไปดูอีกครั้งครับ ก็มาดูที่บ้านท่าม่วง ที่กำลังเล่านี่แหละครับ

...การได้เห็นด้วยตาเปล่า เป็นภาพติดในใจที่สวยงามมาก เกินบรรยายครับ พุ่งขึ้นจากน้ำ ต่อหน้าต่อตา บางลูกห่างไม่กี่เมตร
บางลูกขึ้นกลางแม่น้ำ บางลูกขึ้นเฉียงไปยัง ที่ประทับของ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯและพระองค์ภา
...บางลูกขึ้นใกล้ฝั่งลาว ที่ฝั่งลาวก็มีผู้มารอชมเหมือนกันครับ มีงาน มีแสงสีเสียงที่ฝั่งลาว ถ้าได้ดูรายการบางอ้อ
ซึ่งใน blog แห่งนี้ ก็หาข้อมูลรายการบางอ้อมาให้ชม ก็จะพบว่า ชาวลาว ก็รอชมบั้งไฟพญานาคเหมือนกันครับ

...ขึ้นมาเป็นลูกสีชมพูอมแดง สวยงามมาก ความเร็วคงที่ ไม่มีเสียง ไม่มีควัน ขึ้นสูงจากน้ำมาก ผิดแปลกจากพลุทั่วๆไป
อย่างเห็นได้ชัดเจน จึงไม่แปลกเลย ที่ทุกครั้งที่บั้งไฟพญานาคขึ้นจากน้ำ จะมีเสียงเห อย่างไม่ได้นัดหมาย ถึงขนาด
เป็นการออกอาการดีใจแบบลืมตัวเลยก็มีครับ

...ผมพยายามที่จะถ่ายรูป แต่ถ่ายยากมากๆ จะถ่ายวิดีโอก็ถ่ายไม่ทัน เอาเป็นว่า ให้ชม ภาพวิดีโอจากผู้ที่ถ่ายได้นะครับ
เป็นบั้งไฟพญานาคปี 2551 ครับ ปีเดียวกับที่ผมไปดูนี่แหละ

คลิปนี้ ไม่ได้ระบุว่าถ่ายได้ที่ไหน



คลิปนี้ ถ่าย คืนวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ณ วัดไท อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย



ดูรวมคลิปต่างๆได้ที่ http://bungfai-phayanak.blogspot.com/2009/09/2551.html

จะอย่างไรก็แล้วแต่ ถ่ายมายังงัย ความสวยสดงดงาม ไม่ได้ครึ่งนึงของการได้เห็นด้วยตาเปล่าครับ ขอยืนยัน

...หลังจากได้เห็นบั้งไฟพญานาคเกือบ 20 ลูกที่บ้านท่าม่วงแล้ว ระยะเวลาช่วงประมาณ 1 ทุ่ม - 3 ทุ่ม จากนั้น ก็ไม่มีขึ้นมาอีก
คนก็เริ่มทยอยเดินทางกลับ รถจะติดมากๆ ถ้าเป็นไปได้ก็นอนรอให้คนทยอยกลับเยอะๆก่อนนะครับ

...จบการเล่าเรื่องครับ สำหรับผู้ที่นอนพักอยู่หนองคาย เช้ามาก็อย่าลืมแวะเที่ยวตามที่ต่างๆนะครับ หรือจะข้ามไปฝั่งลาวก็ได้
ใช้บัตรประชาชนในการทำบัตรผ่านแดนครับ ประมาณ 100 บาท ที่ฝั่งลาว มีบริการเที่ยวตามที่ต่างๆในเวียงจันทน์
เป็นการเหมารถตู้ พาเที่ยว 5 ที่ในเวียงจันทน์ ล่าสุด ราคาน่าจะประมาณ 1000-1300 บาท นั่งได้ 8-9 ที่นั่งครับ
ถ้าไปหลายคนก็ช่วยกันหาร ตกกันคนละไม่กี่ร้อยครับ
...รายละเอียดการท่องเที่ยวลาวที่ผมทำไว้ดูได้ที่ http://laos-tours.blogspot.com

...สำหรับการนำรถข้ามไปลาว ต้องทำหลักฐานยุ่งยากครับ รถที่มีสติ๊กเกอร์ ตัว T ติดหลังรถนั้นแหละครับ
ถ้าไปถึงแถวหนองคายจะพบเห็นเยอะ
เอกสารที่ใช้เข้า-ออกประเทศ
1.หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (เล่มสีม่วง)
2.ใบขับขี่รถยนต์รุ่นใหม่ (Driving License)
3.เล่มทะเบียนรถตัวจริง
4.พาสปอร์ตที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
5.หนังสือยินยอม (กรณีรถติดไฟแน็นซ์)
6.ป้ายทะเบียนรถภาษาอังกฤษ
7.สติกเกอร์ตัว T สำหรับติดกระจกหน้าหลัง

รายละเอียดลองอ่านจากกระทู้นี้ดูนะครับ http://www.vitara4x4.com/webboard/show.php?Category=carpark&No=5282

...ในความเห็นของผมแล้ว ไม่ควรนำรถข้ามไปครับ จะมีค่านำรถข้ามอีกด้วย และเรื่องสำคัญ ประเทศลาว จะขับรถคนละด้าน
กับไทยครับ ถ้าข้ามไป จะสับสนและเกิดอุบัติเหตุได้ แล้วจะยิ่งซวยไปกันใหญ่
...และอีกอย่างนึง เอารถข้ามไปแล้วจะไปขับเที่ยวไหนล่ะ ??? ถ้าอยากเที่ยวจริงๆ ก็เหมารถตู้ฝั่งลาวนั่นแหละครับ
มีแต่คันสวยๆทั้งนั้น ให้เค้าพาเที่ยว ...รถบ้านเค้าสวยจริงๆครับ เดี๋ยวนี้ที่ไหนๆในโลก ในตัวเมืองก็มีความเจริญทั้งนั้นครับ
แต่รายการทีวี เวลานำเสนอ มักเป็นประเด็นตามชุมชน ตามหมู่บ้าน ก็เลยอาจจะเจอแต่ความล่าสมัย แต่ถ้าคุณได้เห็นเวียงจันทน์
ในปัจจุบัน จะพบว่าทันสมัยไม่แพ้จังหวัดใหญ่ๆในประเทศไทยเลยเชียว


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

...สำหรับสะพานมิตรภาพไทยลาว ที่ จ.หนองคาย ถ้าออกจากตัวเมืองหนองคายจะเลี้ยวขวานะครับ ไปไม่กี่ กม.ก็ถึงแล้ว

รายการบางอ้อ ตอน ตามรอยพญานาคลุ่มน้ำโขง
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2551 เวลา 23.00 น. โมเดิร์นไนน์ทีวี



ตามรอยพญานาค ในบางอ้อ_1 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


ช่วงที่ 2 จะเป็นการชมบั้งไฟพญานาคในฝั่งลาว
ที่ บ้านดอนแยง เมืองปากงึม แขวงเวียงจันทน์ ตรงข้ามกับ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

ตามรอยพญานาค ในบางอ้อ_2 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่



ตามรอยพญานาค ในบางอ้อ_3 - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่


กำหนดการ เทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย ปี 2552
ข้อมูลจากเว็บ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
http://thai.tourismthailand.org/festival-event/grand-content-5789.html

กำหนดการ
การจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
ระหว่างวันที่ 1 – 7 ตุลาคม 2552
เทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

*********************
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 18.00 – 23.00 น. - พิธีเปิด การจัดงานและกิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อน
ป้องกันตลิ่ง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวดกระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง
วัดสิริมหากัจจายน์

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำ
วัดลำดวน ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - พิธีเปิด การแสดงแสง – เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ณ เวทีบริเวณ
ที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน
- การประกวดกระทงยักษ์ และการลอยเรือไฟบูชาพญานาค ณ บริเวณริมน้ำโขง
จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง วัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 19.30 น. - เริ่มการแสดง แสง – เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ณ บริเวณที่ราชพัสดุ
ข้างวัดลำดวน วันแรก

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึงท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวดกระทงยักษ์ และการลอยเรือไฟบูชาพญานาค ณ บริเวณ
ริมแม่น้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง วัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 19.30 น. - การแสดง แสง – เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค ณ บริเวณที่ราชพัสดุ
ข้างวัดลำดวน วันสุดท้าย

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 08.00 – 09.00 น. - พิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง ณ บริเวณท่าน้ำวัดหายโศก
เวลา 10.00 – 11.00 น. - พิธีบวงสรวงพระธาตุกลางน้ำ ณ บริเวณท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 08.00 – 16.30 น. - การประกวดปราสาทผึ้งแบบดั้งเดิมจากคุ้มวัด ,ชุมชนต่าง ๆ ณ บริเวณ
วัดหายโศก เสร็จแล้วถวายเจ้าแม่สองนาง และเคลื่อนขบวนปราสาทผึ้ง
เพื่อถวายพระธาตุกลางน้ำ ณ บริเวณท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 09.00 – 18.00 น. - การแข่งขันเรือยาว ประเภท ค. งานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึงท่าน้ำวัดสิริมาหากัจจายน์
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำ
วัดลำดวน ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 18.00 น. - การลอยกระทงวันเพ็ญ เดือน 11 ณ บริเวณท่าน้ำเขตเทศบาล
เวลา 19.00 น. - การประกวด / การแสดงบนเวที ณ บริเวณที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน
- การประกวดกระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึงวัดสิริมหากัจจายน์
- การลอยกระทงสาย เริ่มต้นจากท่าน้ำวัดมีชัย

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2552 (แรม 1 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 06.00 น.. - การตักบาตรเทโวโรหนะ แบ่งเป็น 4 สาย คือ
สายที่ 1 จากวัดสิริมหากัจจายน์ ถึง วัดอุดมมหาวัน
สายที่ 2 จากวัดโพธิ์ศรี ถึง วัดยอดแก้ว
สายที่ 3 จากวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ ถึง วัดศรีคุณเมือง
สายที่ 4 จากวัดศรีเมือง ถึง วัดชัยพร
เวลา 09.00 – 18.00 น. - การแข่งขันเรือยาวประเภท ข. งานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึง ท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวด / การแสดงบนเวที ณ บริเวณที่ราชพัสดุข้างวัดลำดวน
- การแสดงโชว์กระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง
วัดสิริมาหากัจจายน์

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม 2552 (แรม 2 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 0900 – 18.00 น. - การประกวดกองเชียร์เรือยาวประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
จากท่าน้ำวัดป่าพร้าว ถึง ท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 09.00 – 12.00 น. - การแข่งขันเรือยาวประเภท ก. งานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552
รอบคัดเลือก จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึง ท่าน้ำวัดสิริมหากัจจายน์
เวลา 11.00 – 13.30 น. - เคลื่อนขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ตามเส้นทางที่กำหนด
เวลา 14.00 – 16.30 น. - การแข่งขันเรือยาว ประเภท ก. รอบคัดเลือก ตามตารางการแข่งขัน
จากท่าน้ำวัดโพธิ์ชัย ถึง ท่าน้ำวัดสิริมาหากัจจายน์
เวลา 17.00 – 18.00 น. - การแข่งขันเรือยาว ประเภท ก. รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยพระราชทานฯ
- พิธีมอบรางวัล การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ
และรางวัลกิจกรรมต่าง ๆ (ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์) เสร็จพิธี
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรมถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่ง จากท่าน้ำวัดลำดวน
ถึง ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การแสดงโชว์กระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง
วัดสิริมาหากัจจายน์
วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2552 (แรม 3 ค่ำ เดือน 11)
เวลา 18.00 – 23.00 น. - กิจกรรม ถนนอาหาร การแสดง ณ บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งจากท่าน้ำ
วัดลำดวน ถึงท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง
เวลา 19.00 น. - การประกวด / กาแสดงบนเวที ณ บริเวณที่ราชพัสดุ
- การแสดงโชว์กระทงยักษ์ ณ บริเวณริมน้ำโขง จากท่าน้ำวัดลำดวน ถึง
วัดสิริมหากัจจายน์ วันสุดท้าย
- เสร็จสิ้น การจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2552

ออกพรรษา 2555

ออกพรรษา ปี 2555 ตรงกับวันอังคารที่ 30 ต.ค. 2555 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ...หากต้องการไปชมบั้งไฟพญานาค รีบจองที่พัก ก่อนหาที่นอนไม่ได้ หรือก่อนทัวร์ต่างๆจะจองก่อน

เกี่ยวกับ blog บั้งไฟพญานาค

blog บั้งไปพญานาค แนะนำการเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค การวางแผนเที่ยวชม ภาพและวิดีโอต่างๆ รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวชม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก่อนเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค ที่ จ.หนองคาย

*** บั้งไฟพญานาค เป็นชื่อที่ตั้งขึ้น ไม่เกี่ยวกับพญานาค แต่ก่อนเรียกบั้งไฟผี ส่วนว่า จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือไม่ ไม่ขอยืนยันนะครับ อาจจะเป็นมนุษย์ทำขึ้นก็ได้ เช่นการยิงปืนกระสุนส่องแสง หรืออะไรก็แล้วแต่ blog นี้นำเสนอเรื่องราว เกี่ยวกับคนที่เค้าไปท่องเที่ยวชม ในช่วงนั้น ***

โฆษณา น่าสนใจ สุดคุ้ม

...Photo MakeMoney !!! หาเงินจากภาพถ่ายของคุณ !!! ได้อย่างไม่สิ้นสุด !!!รายละเอียด.....

คีย์เวิร์ดเด่นๆ ในการเที่ยวชมบั้งไฟพญานาค

เรื่องราว ประสบการณ์ ท่องเที่ยวชม บั้งไฟพญานาค โดย

webmaster http://www.makemoney-school.com สอนฟรีหาเงินผ่านเน็ต อิสรภาพ แห่งปัญญา
ท่านสามารถ ติดตามการ update โดยคลิก like ที่หน้า page
facebook makemoney-school.com

Total Pageviews