ปี 2553 ขึ้นมากที่สุดที่ บ้านท่าม่วง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย
ขึ้น 65 ลูก
บั้งไฟพญานาค Amazing World !!! มหัศจรรย์แม่น้ำโขง...
...ทุกวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น ถึงประมาณ 3 ทุ่ม
จะมีลูกไฟประหลาด (naga fireball,bungfai phayanak) มีลักษณะ แสงสว่างเรือง สีชมพู อมแดง
ไม่มีเสียง ไม่มีควัน ไม่มีประกายไฟ ขึ้นตรงบ้าง เฉียงบ้าง แต่ไม่โค้ง
และไม่ตกลงมา จะดับหายไปในอากาศ
..จะขึ้นสูงมาก ประมาณ 50-200 เมตร สูงจากการจุดพลุทั่วๆไป เป็นที่มหัศจรรย์มากมาย
...บั้งไฟพญานาค 1 ปี จะมีเพียงครั้งเดียว
ปีใด มีแปดสองหน (ปี อธิกมาส ...ปีอธิกมาส เป็นปีตามปฏิทิน จันทรคติ)
จะเลื่อนไป แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของทางฝั่งลาว
...แต่ชาวหนองคายบางคน บอกว่าปีไหนมีแปดสองหน บั้งไฟพญานาค จะขึ้นทั้งสองวัน
คือวันออกพรรษาของไทย และวันออกพรรษาของลาว
...บั้งไฟพญานาคมีมาแต่โบราณกาล เท่าที่มีหลักฐานก็ร่วม 200 กว่าปี ตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ตั้งแต่ อ.โพนพิสัย
ถึง อ. บึงกาฬ กว่า 300 กม.(มักพบที่ อ.โพนพิสัย กิ่ง อ.รัตนวาปี อ.ปากคาด อ.บึงกาฬ)
ใต้แม่น้ำโขง ช่วง อ.โพนพิสัย ถึง แก่งอาฮง อ.บึงกาฬ ชาวหนองคายเชื่อว่า เป็นเมืองของพญานาค
(พระอาทิตย์ยามเย็น ที่ฝั่งลาว)
วันออกพรรษา ของทุกปี ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
ซึ่งสามารถตรวจสอบโดย เข้าที่เว็บ http://astrology.thaiorc.com/calendar.php
แล้วดูที่เมนู "ค้นหาข้อมูลจากปฏิทินจันทรคติ"
ซึ่งในปี 2552 นี้ เมื่อเลือกค้นหา ขึ้น15 ค่ำ เดือน 11 ปี 2552 ไปแล้ว
จะตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 4 ตุลาคม 2552
หมายความว่า วันออกพรรษา 2552 นี้ จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552
...และหลักการในการตรวจสอบ วันดูบั้งไฟพญานาค โดยปีที่มีเดือนแปดสองหน ตามจันทรคตินั้น
บั้งไฟจะไม่ขึ้นในวันออกพรรษาไทย หรือมีขึ้นน้อย แต่จะไปขึ้นในวันถัดไปคือ แรม 1 ค่ำ เดือน 11
ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของลาว
สำหรับแปดสองหนนั้น เรียกอีกอย่างว่า ปีอธิกมาส ตามปฏิทินจันทรคติ
...ในผลของการค้นหาวันในเว็บ http://astrology.thaiorc.com/calendar.php
...พบว่า วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ปี 2552 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 และเป็นปี อธิกวาร
(ไม่ได้เป็นปี อธิกมาส)
...เพราะฉะนั้น บั้งไฟพญานาค ปี 2552 จะขึ้นมากในวันออกพรรษา ตามปกติ
------------------------------
มาดูความรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับปฏิทิน
ปฏิทินจะมี 2 แบบคือ แบบสุริยคติ กับ แบบ จันทรคติ ซึ่งแบบสากล คือแบบ สุริยคติ
ระบบปฏิทินแบบสุริยคตินั้น จะใช้การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ในการกำหนด 1 ปี
ใช้เวลาประมาณ 365. 25 วัน จึงแบ่งปีออกเป็น ปี อธิกสุรทินมี 366 วัน
และ ปีปกติมี 365 วัน โดยทุก 4 ปีจะมีปีอธิกสุรทิน 1 ครั้งโดยประมาณ
ส่วนปฏิทินจันทรคติของไทยนั้น จะใช้การโคจรของดวงจันทร์รอบโลกเป็นเกณฑ์
กำหนดให้ 1 ปี มี 12 เดือน ในเดือนที่มีเลขคี่คือเดือน 1, 3, 5, 7, 9, 11 ให้มี 29 วัน(เรียกว่าเดือนขาด)
และในเดือนคู่คือ 2, 4, 6, 8, 10, 12 ให้มี 30 วัน(เรียกว่าเดือนเต็ม) ใน 1 เดือน จะแบ่งเป็นข้างขึ้น 15 วัน และข้างแรม 14-15 วัน (ในเดือนขาดจะมีแค่แรม 14 ค่ำ ส่วนในดือนเต็มจะมีแรม 15 ค่ำ) รวม 1 ปีปกติจะมี 354 วัน ซึ่งทำให้ต่างจากปีทางสุริยคติถึง 11 วัน ดังนั้นจะต้องมีการปรับปฎิทินเป็นระยะ เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำกัน โดยจะแบ่งประเภทปีออกเป็น 3 แบบ
1. ปกติมาส มี 354 วัน
2. อธิกมาส มี 384 วัน โดยปีนั้นจะมีเดือน 8 ซ้ำ 2 หน
3. อธิกวาร มี 355 วัน โดยในเดือน 7 จะมีแรม 15 ค่ำ
ทุกๆ 19 ปีจะมีอธิกมาส ประมาณ 7 ปี และอธิกวาร ประมาณ 3 ปี(ไม่แน่นอน)
ข้อความ ความรู้ จาก http://www.payakorn.com/moondate.php